10 อันดับ พรมปูพื้น ยี่ห้อไหนดี ราคาถูกที่สุด ปี 2024

พรมปูพื้น คืออะไร?

การตกแต่งบ้านเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียวค่ะ เพราะสามารถทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ กลับบ้านมาทีไรก็มีแต่ความรื่นรมย์ ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับมาพักผ่อนจริง ๆ หรือเมื่อกลับมาแล้วจะมองไปทางไหนก็ดูรกไปหมด ตรงนั้นของก็วางเกะกะ ตรงนี้ก็สกปรกนั้น ก็อยู่ที่เราจะทำให้เป็นรูปแบบไหนนั่นเองค่ะ แต่การจะตกแต่งบ้านให้สวยงามเป็นระเบียบ ก็ต้องพึ่งพาเฟอร์นิเจอร์หลายอย่าง เช่น ชั้นวางของ ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางทีวี, ชั้นวางของติดผนัง, ชั้นวางหนังสือ หรือโซฟา, โต๊ะกินข้าว เป็นต้น โดยหากต้องการเพิ่มความหรูหราในห้องนั้น ๆ คุณสามารถใช้ พรมปูพื้น เข้ามาช่วยได้นะคะ

พรมปูพื้น เป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นหนึ่งที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับบ้านหรือห้องนั้น ๆ ของคุณ หรือบางท่านอาจเลือกที่จะใช้พรมปูพื้นในการปกปิดพื้นบางจุดที่เป็นรอย ไม่สวยงามก็ได้เช่นกัน มีด้วยกันหลากหลายขนาด ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน และพื้นที่ที่เราต้องการปูพรมที่พื้นนั่นเอง

พรมปูพื้น ข้อดี-ข้อเสีย?

เมื่อจะใช้พรมปูพื้นแต่ยังมีความลังเลใจอยู่บ้าง เรามาดูข้อดี-ข้อเสียของการใช้พรมปูพื้น เพื่อจะได้มีข้อพิจารณามากขึ้น ดังต่อไปนี้

ข้อดีของพรมปูพื้น

1. เพิ่มความสวยงาม คุณจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนระหว่างห้องที่มีพรมปูพื้น และห้องที่ไม่มีค่ะ เพราะหลังจากปูพรมปูพื้น ห้องนั้นจะถูกยกระดับความสวยงามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
2. เพิ่มสไตล์การแต่งบ้าน เนื่องจากพรมปูพื้นมีหลากหลาย ทั้งแบบสีพื้น มีลวดลาย และหลากสีสัน คุณสามารถทำให้การตกแต่งในห้องนั้น ๆ ของคุณดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยพรมปูพื้น
3. เพิ่มความอบอุ่น ความสามารถอย่างหนึ่งของพรมปูพื้นก็คือ ช่วยกักเก็บความร้อนไว้ได้ และหากคุณเลือกวัสดุพรมเป็นพรมอะคริลิก หรือพรมไนลอน ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับหนังสัตว์ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คุณรู้สึกอุ่นเท้าได้เป็นอย่างดี
4. ปกป้องพื้นผิว กันรอย เชื่อแน่ว่าคุณ ๆ เป็นคนรักบ้าน คงไม่ต้องการให้บ้านเสื่อมโทรม เป็นรอย แม้แต่พื้นบ้านก็คงต้องการถนอมไว้ให้นานที่สุด ซึ่งการปูพรมที่พื้นจะช่วยปกป้องพื้นผิวของบ้านไม่ให้เป็นรอยได้ด้วย และอีกประการ ในกรณีที่เป็นรอยไปแล้ว เดินผ่านและเห็นครั้งใดก็รู้สึกไม่ชอบใจเสียเลย การปูพรมก็ช่วยบดบังรอยขีดข่วนดังกล่าว และยังเพิ่มความสวยงามบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี
5. ลดอุบัติเหตุ หากในบ้านมีผู้สูงอายุ การปูพรมปูพื้นจะช่วยลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี เพราะทำให้พื้นผิวบ้านไม่ลื่น อีกทั้งหากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน พรมปูพื้นก็ยังช่วยทำหน้าที่เป็นตัวรองรับการกระแทกได้ระดับหนึ่งอีกด้วย ทำให้บรรเทาอุบัติเหตุที่อาจรุนแรงให้ลดน้อยลงได้

ข้อเสียของพรมปูพื้น

1. กักเก็บฝุ่น หากมีพรมปูพื้นแล้วไม่หมั่นดูดฝุ่นใต้พรมให้ดี และสม่ำเสมอ เจ้าพรมปูพื้นนี่แหละจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นอย่างมากทีเดียวค่ะ และหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้ก็อาจทำให้มีอาการแพ้ขึ้นได้
2. ไม่ทนทาน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและวัสดุของพรมร่วมด้วยนะคะ เพราะหากเรามีการใช้งานบ่อย ๆ เหยียบย่ำหรือลากของไปมาบนพรมอยู่เสมอ ก็ทำให้พรมเสียหายได้ค่ะ
3. ของหกใส่ทำความสะอาดได้ยาก หากเผอเรอทำน้ำหวาน กาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ หกใส่ นอกจากจะทำให้พรมสีเปลี่ยนแล้ว การทำความสะอาดยังทำได้ยากมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ
4. ไม่เหมาะกับสัตว์เลี้ยง หากคุณมีการเลี้ยงแมวหรือสุนัข พรมปูพื้นจะเป็นตัวเก็บขนสัตว์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ อาจต้องทำความสะอาดบ่อยครั้งขึ้น หรือต้องระมัดระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงขับถ่ายบนพรมปูพื้นค่ะ ไม่เช่นนั้นทำความสะอาดยากมากเลยทีเดียว

พรมปูพื้น วิธีเลือกซื้อ

หากเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแล้ว คำตอบยังเป็นความต้องการเลือกซื้อพรมปูพื้นอยู่ เราแนะนำวิธีเลือกซื้อดังนี้ค่ะ

1.ความต้องการในการใช้งาน ต้องดูว่าคุณต้องการปูพรมปูพื้นไว้ที่ส่วนใดในบ้าน เช่น

• ปูพรมในห้องนอน ควรเลือกพรมปูพื้นที่มีขนนุ่มฟู สบายเท้า ให้ความรู้สึกถึงความต้องการในการพักผ่อน
• ปูพรมในห้องรับแขก ควรดูจากขนาดของโซฟาเป็นหลัก ขนาดพรมควรให้กว้างกว่าชุดโซฟาสักเล็กน้อย เลือกพรมแบบผิวเรียบ หรือขนสั้น เพราะโดนกดทับบ่อย อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

2. วัสดุของพรมปูพื้น โดยพรมปูพื้นนั้นมีด้วยกันหลากหลายวัสดุ อาทิเช่น

• พรมขนสัตว์ ให้ความรู้สึกหรูหรา แข็งแรง ทนทาน มีความนุ่มนวล แต่ราคาค่อนข้างสูง ต้องได้รับการดูแลรักษามากกว่าพรมชนิดอื่น ๆ
• พรมไนลอน มีคุณสมบัติหลายอย่างใกล้เคียงกับพรมขนสัตว์ ทนทาน ป้องกันน้ำและรอยขีดข่วนได้ดี เป็นแบบพรมที่ได้รับความนิยมมาก และยังมีราคาไม่แพงนักอีกด้วย
• พรมอะคริลิก เป็นพรมอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติคล้ายพรมขนสัตว์ มีความสวยงามมาก ราคาประหยัดกว่าพรมขนสัตว์ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นพรมอีกชนิดที่ได้รับความนิยม

3. ดีไซน์ของพรมปูพื้น พรมปูพื้นมีด้วยกันหลากหลายสี และหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสีพื้น หรือว่ามีลวดลาย ซึ่งควรเลือกให้เหมาะสมกับธีมในการแต่งห้องนั้น ๆ เพื่อขับให้ห้องดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

4. ขนาด เลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการปูพรมร่วมด้วยนะคะ เพื่อความสวยงามมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วพรมจะมีขนาดที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เช่น 3×5, 4×6, 6×9 เป็นต้น หรือหากต้องการขนาดพิเศษ ก็ต้องเลือกร้านที่สามารถทอและสั่งตัดตามสั่งได้ค่ะ

4. งบประมาณ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องการคำนึงถึงค่ะ หากวัสดุบางอย่างของพรมมีราคาสูงเกินไป ก็อาจดูวัสดุอื่นที่ใกล้เคียงหรือทดแทนกันได้ ก็จะทำให้คุณสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าได้ และอยู่ในงบประมาณที่คุณได้วางเอาไว้ร่วมด้วยค่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ได้เวลามาเลือกซื้อพรมปูพื้นเพื่อไปตกแต่งห้องของคุณกันแล้วนะคะ มาเลือกกันที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

1. ขนาดใหญ่ 6ฟุต พรม3D พรมอัดเรียบ พรมปูพื้น

2. พรมกันลื่น พรมลายอัดเรียบ พรมลายกราฟฟิค

3. TTO พรม พรมปูพื้น สีทูโทน มี 2 ขนาด (200×300 ซม./200×300 ซม.)

4. ขนาดจัมโบ้ พรม3D พรมปูพื้นห้อง พรมนั่งเล่น

5. TTO ขนกันลื่นพรมปูพื้น/ปูเสื่อ 200ซม x 300ซม/200ซม x 400ซม

6. พรม พรมปูพื้น ขนาด200x300cm พรมห้องนั่งเล่น

7. ใหญ่จริง+นุ่มมาก !!! พร้อมส่ง พรมขนกระต่ายเทียม

8. พรมปูพื้น 10 ฟุต[แท้] พรมตกเเต่งบ้าน ลายอาหรับรุ่นหนาพิเศษ

9. พรม200x300CM .พรมเปอร์เซีย พรมหลุยส์ พรมทางเดิน

10. พรม พรมปูพื้น พรมแดง พรมลูกฟูก พรมอัดเรียบ

บทส่งท้าย

การตกแต่งบ้านให้สวยงาม ประกอบด้วยหลากหลายสิ่งมากมาย และพรมปูพื้นก็เป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่ง ที่คุณสามารถทำให้บ้านหรือห้อง ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดูสวยงาม มีความหรูหรา ติดตั้งได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก เพียงแต่ควรเลือกลวดลาย สีสันให้เหมาะกับการแต่งห้องนั้น ๆ มาทำบ้านให้เป็นวิมาน ที่เมื่อเลิกงานเมื่อไหร่ คุณอยากจะดิ่งตรงกลับบ้านทุกครั้งกันดีกว่าค่ะ